Jcampa

ยินดีต้อนรับทุกท่าน เข้าเยี่ยมชม และออกความเห็น แบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน

You are cordially invited to join sharing your experience here.

เชิญร่วมแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกันตรงนี้


ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2550

ขอร่วมสรรเสริญและสดุดีผู้กล้าหาญซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่

ขอร่วมสรรเสริญและสดุดีผู้กล้าหาญซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่ที่สร้างวีรกรรม
ไม่ทราบว่าข่าวนี้เกิดเมื่อคืนวันที่ 25 เมษายน 2550 หรือเมื่อเช้านี้แน่ แต่ได้ฟังข่าวจาก FM 96.5 MHZ. ตอนเช้าวันที่ 26 บังเอิญได้ฟงมากระท่อนกระแท่น สรุปความได้ว่ามีการลักเด็กหญิงขึ้นรถกระบะเล็กไปแถวงามวงศ์วานคนขับแท็กซี่ได้ฟังข่าวจาก จ.ส. 100 จึงรีบไปดักตรงไฟเขียวไฟแดงเพื่อคอยดักจับโจร และให้ความช่วยเหลือเด็กคนดังกล่าวจนรู้ว่ารถคันนั้นจะไปในทิศทางไหน แล้วเขาก็ขับแท็กซี่ตามไป พอได้ทีก็เลยขับแท็กซี่ปาดหน้ารถคันนั้นทำให้รถโจรต้องหยุด ท่านผู้มีน้ำใจเสียสละที่เป็นคนขับรถแท็กซี่คนนี้ ลงจากรถพร้อมกับถือเหล็กท่อนหนึ่งมาด้วยเพื่อจะใช้ป้องกันคนร้ายรายนี้ แต่ผู้ร้ายก็พยายามจะหนีเอาตัวรอด บรรดาโชเฟอร์แท็กซี่ต่างพากันช่วยตามจับ จนได้ตัว แล้วติดต่อให้ตำรวจมารับตัวไป
จับความมาได้อย่างนี้แหละ ใครมีรายละเอียด ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยเถอะ หาได้ยากมากบรรดาผู้มีน้ำใจประเสริฐ กล้าหาญ ถึงขนาดไปดักจัก เสี่ยงเอาชีวิตตัวเข้าแรกอย่างนี้ และจะมีอีกไหมคนดีๆอย่างนี้ เสียดายทั้งชื่อและนามสกุลของท่านเหล่านี้จำไม่ได้ ผู้อ่านข่าวดูเหมือนจะอ่านแค่ผ่านๆไป ไม่ได้ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของท่านเหล่านี้เลย เห็นเป็นแค่ข่าวเล็กๆน้อยไปเสียนี่ จะรอดูว่าจะมีรายการไหนเอามาพูด มาขยายความให้เห็นเป็นเรื่องสำคัญบ้างไหม เป็นเรื่องเสียสละ เป็นเรื่องกล้าหาญที่ควรจารึกไว้เป็นแบบอย่างกับชนรุ่นหลังอย่างมากเลย ทางการ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรมควรให้ความสนใจให้มากและพยายามตีแผ่คุณงามความดีอย่างนี้เอาไว้ในทำเนียบผู้มีคุณงามความดีที่ควรจารึกไว้ และประโคมข่าวให้เป็นที่รับรู้กันจนเป็นกระแสไปเลยจะได้ไหม หรือให้ใครคนใดคนหนึ่งตายไปสักข้างจึงจะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ มาคิดสร้างทำเนียบคุณงามความดีแห่งชาติเอาไว้หน่อยจะดีไหม บุคคลที่ประพฤติเยื่องอย่างนี้ ไม่ใช่จะเอาแต่ชื่อดารา พ่อแม่ดารา นักร้องนักกีฬาเท่านั้น คนที่ทำความดีอย่างอื่นสำคัญๆก็มีอีกเยอะแยะ ปุนบำเน็จคุณงามความดีพวกเขาที่เสียสละตนเองขนาดเอาชีวิตเข้าแรกอย่างนี้ หรือว่ารูความดีกันแค่ดารา ศิลปินแห่งชาติ นักกีฬาแต่นั้น ร้องรำไม่เป็น ไม่มีโอกาสออกทีวีก็เลยไม่มีความดีอย่านั้นหรือ ประเทศไทย!
ท่านผู้กล้าหาญที่เป็นคนขับi5แท็กซี่ที่มีน้ำใจประเสริฐดังกล่าว หากท่านผู้ใดทราบชื่อ นามสกุลกรุณาด้วยเถอะช่วยแจ้งให้รายการสำคัญๆตามวิทยุ โทรทัศน์ได้ทราบกันด้วยเผื่อเขาจะเห็นความสำคัญในวีรกรรมอันนี้ ถ้าจะกรุณาจะแจ้งมาที่ อีเมล์ < wrp.inbkk@gmail.com > ได้ด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง จะได้จารึก และสรรเสริญกันไว้ใน Blog นี้ไม่ให้จางหายไป
ข่าวสร้างสรรค์อย่างนี้พวกเราที่เป็นคนปนมนุษย์ยุคนี้ไม่ค่อยจะใส่ใจกันนัก ฟังแล้วก็แล้วไปไม่มีใครเกิดศรัทธา ไม่มีใครชื่นชมยินดี หรือตระหนักในคุณงามความดีที่มีเหลืออยู่เพียงน้อยนิดในสังคมทุกวันนี้ ทีดาราพลิกตัวไปมา ไม่ว่าดีว่าร้ายสนใจกันแทบจะไม่มีขาดระยะเอาเสียเลย รายการทีวี วิทยุประโคม กระจาย เผยแพร่กันได้กันดี จนกลายเป็นการล้างสมองผู้คนทั่วไป รวมทั้งเด็กยุคใหม่ ที่คอยจ้องอยู่ที่หน้าจอทีวี มีแต่รายการดารา นักกีฬา นักร้อง หมอดู พ่อครัว เกมต่างๆ ตลกหน้าเก่าๆ มุขเก่าๆเช่าวิกแสดงทางจอทีวี เช่าโรงมาตั้งแต่ปีไหนก็จำไม่ได้แล้ว ไม่ทราบว่าปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ได้ยังไงจนป่านนี้ เด็กๆเขาไม่รู้หรอกว่าอันไหนดีอันไหนชั่ว ออกทีวี ออกสื่อมาเขาก็เข้าใจว่าดีเยี่ยม เป็นที่ยอมรับของสังคมแล้ว ถูกต้องแล้ว จนหน้าไหนๆไม่ว่าพ่อ ว่าแม่ต่างจะพากันปั้นลูกของตัวเองเพื่อให้เป็น ดารา เป็นนักร้อง นักรำ หมอดู พ่อครัวกันมากขึ้นๆ อีกไม่นานเมืองไทยคงขาด ผู้คนที่จะเสาะแสวงหาความรู้ หาวิชาการ หาวิชาชีพเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง สร้างประเทศชาติให้เจริญ รุ่งเรืองทัดเทียมประเทศอื่นเขา คงจะมีแต่ตั้งหน้าตั้งตาออก เทป ซีดี ดีวีดีกันแค่นั้นเอง แล้วจะเอาอะไรไปสู้กับประเทศอื่นเขา ดูๆว่ามีอยู่พักหนึ่งประเทศชาติกำลังจะรุดหน้าประเทศอื่นเขาไปไกล จนผู้คนทั่วโลกยอมรับ และรู้จักประเทศไทยอย่างมาก แล้วอยู่ดีๆก็มีคนมาชักใบให้เรือเขวหันกลับลำลงคลองเอาดื้อๆ ไม่ผิดอะไรกับประเทศทางอัฟริกาที่ด้อยความเจริญ หรือแม้แต่ประเทศต่างๆที่อยู่ข้างเคียงเรา ดูแล้วเราจะด้อยไปกว่าเขาเอามากที่เดียวด้วยซ้ำ
พอแข่งขันระดับประเทศชนะหน่อยก็ชื่นชมกันใหญ่ จนลืมเนื้อลืมตัวกัน เสร็จแล้วแค่นั้นเอง ลงทุนก็มาก ไปฝึก ไปซ่อมกันในต่างประเทศที่ต้องใช้จ่ายแพงก็ทำกันได้ จริงๆการกีฬาก็เพื่อสร้างสำนึก สร้างนิสัยให้รู้จักออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรงไม่เป็นคนขี้โรค หรือจะพูดอย่างที่เคยได้ยินมาตลอดว่า ให้รู้จักแพ้ รู้จักอภัย แต่ที่ไหนได้ ตัวนักกีฬานั่นแหละแพ้กันเมื่อไรจะชวนตีเสียเอง หรือกองเชียร์กีฬาจะชวนราวีเสียเอง แต่ก็ไม่มีใครมองออก ว่ารู้แพ้ รู้อภัยได้จริงหรือไม่ การพนันนั่นแหละคือน้ำเชื้อตัวสำคัญ ต่อมาก็อ้างว่า จะทำให้ประเทศอื่นได้รู้จักเราดีขึ้น จริงๆแล้ว ผู้เขียนบทความนี้ไม่ได้รังเกลียด ไม่ได้ขัดแย้งกับการการกีฬาแต่อย่างใด แต่ไม่อยากให้ทุ่มไปแต่ด้านนี้ด้านเดียว อุตส่าไปแข่งขันโอลิมปิควิชาการกลับมาทั้งที่ได้เหรียญทอง เหรียญเงิน มาระดับมันสมองอย่างนั้น แทนที่จะให้ความชื่นชมให้ดาดดื่นไปทั่วบ้านทั่วเมือง เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขา ได้มุมานะแสวงหาความรู้มาแบ่งบัน สรรสร้างอะไรที่ดีๆ เจริญทันยุคทันสมัย กลับทำแบบเสียไม่ได้ สักแต่ได้ทำ คนที่จะคิดหาสูตร หรือประดิษฐ์คิดสร้างอะไรให้พวกเราอยู่ดีกินดี มีคุณค่า เจ็บไข้ได้ป่วยจะมีคนคิดหายามารักษาเราได้ สามารถวิเคราะห์ วิจัยอะไร หรือหาคำตอบอะไรที่ยังมืดแปดด้านอยู่ให้สำฤทธิ์ผลออกมา บ้านเมืองจะเจริญขึ้นมาได้ก็เพราะหัวสมอง วิชาการ นักเรียนรู้ ผู้แสวงหาความรู้แปลกๆใหม่ วิทยาการ เทคโนโลยีต่างๆที่เกิดขึ้นมาใหม่ๆที่เราตามเขาไม่ทัน มีองค์กรไหนที่จะให้ความสนใจทุ่มเงินทุ่มกำลังใจให้เด็กรุ่นใหม่ ได้สำนึกว่าอะไรสำคัญเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ใช่แค่รู้ว่าแพ้ ชนะแค่นั้นแล้วก็จบไป มันเหมือนดูหนังจบไปเป็นเรื่องๆเท่านั้น แต่ถ้าทุ่มเงิน ทุ่มงบประมาณ ทุ่มกำลังใจ เชียร์กันสุดๆเหมือนกับผู้ชนะกีฬาแต่ละเกม มีรางวัลให้เขา มีคนชื่นชมกันทั่วแผ่นดิน มีคนเชิญไปออกรายการทีวี วิทยุ มีค่ายต่างๆซื้อตัวไปแสดงละคร พูดง่ายๆว่าสร้างความสำคัญให้กับบรรดานักวิชาการ นักแข่งวิชาการโอลิมปิค หรือผู้ที่มุ่งมั่นกับวิชาการ เพื่อส่งเสริม กระตุ้นให้พวกเขาสามารถคิดอะไรออกมาให้เป็นประโยชน์กับสังคม มีการแสดงออกอย่างออกหน้าออกตา มีรางวัลที่เหนือหรือมากว่าผู้ชนะการแข่งขันกีฬา จะดีไม่น้อย ไม่ใช่หรือ (ขอใส่วงเล็บไว้ตรงนี้ว่า การกีฬาก็ยังมีความสำคัญอยู่และควรได้รับการส่งเสริมในรูปแบบที่ถูกต้องตามฐาณานุรูป ตามสภาพเศรษฐกิจของประเทศ อย่าเอากีฬาเป็นเครื่องหาคะแนนเสียง โดยไม่ได้คำนึงถึงความทุกข์ยากของประชาชนตาดำๆเลย และอย่าได้ทุ่มเทมากเกินไปกว่าด้านการศึกษา การวิจัย)
ไม่เคยเห็นเลยว่าจะมีรัฐบาลไหนจะจัดขบวนไปรับเขาตอนชนะกลับมา ไม่มีเลยจะเอาพวกเขาขึ้นรถเปิดประทุน แห่แหนให้พวกเขาภาคภูมิใจ ไม่มีเลยที่พวกเขาจะได้พบคนสำคัญๆอย่างออกหน้าออกตาดังๆ จัดงานเลี้ยงซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนบรรดานักกีฬาทั่วไปเขาได้รับกัน รางวัลอะไรเขาได้กัน แล้วเราจะเอาหัวสมองที่ไหนไปสู้กับประเทศอื่นเขา ซึ่งเขาเจริญกันแล้ว รวยกันแล้วเขาจึงมาทุ่มเรื่องกีฬา เราสิเห็นช้างขี้จะขี้อย่างช้าง มาทุ่มเรื่องการศึกษา เรื่องการเสาะแสวงหาความรู้กันให้มากกว่านี้หน่อยเถอะ เจริญเท่าเขา รวยเท่าเขา แล้วค่อยทุ่มกีฬาให้หนักเพื่อสู้ ฟัดเหวี่ยง แข่งขันกับประเทศที่เขาพร้อมทุกอย่างแล้ว จะไม่ดีกว่าหรือ
แม้แต่ภาษาอังกฤษ เห็นบอกว่าสำคัญนักสำคัญหนา ใครเป็นรัฐบาลก็จะเอาให้ดี จะมุ่งพัฒนาให้บรรลุผลทุกรัฐบาล แต่จับงานเข้าจริงก็พอๆกัน ไม่มีอะไรแตกต่างออกไปเลย แค่เพียงให้คนรู้ว่าทำเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เคยรู้แค่ไหนก็อยู่กันแค่นั้น เคยมีใครศึกษา วิเคราะห์วิจัยกันเป็นเรื่องเป็นราวบ้างไหม จะเป็นนักวิชาการ หรือจะมีแค่บรรดานักการเมืองที่รู้อะไรไม่จริง เดี่ยวก็บอกว่า ไม่ต้องเรียน ไวยากรณ์ เดี๋ยวก็บอกว่าไวยากรณ์ไม่สำคัญ ขนาดรู้ไวยากรณ์ยังเขียน อ่าน พูด แปลไม่ได้เลย อยู่ๆจะให้เทวดามาเนรมิตให้เก่ง ให้เป็นได้ยังไง ตรัสรู้ได้เองหรือไง คนที่พูดเองใช่ว่าจะเป็นภาษากับเขาที่ไหน ได้อยู่ในตำแหน่งจากการเลือกตั้งเข้ามา ควรสังวรตัวเองไว้บ้าง ไม่รู้จริงอย่าได้ออกความคิดเห็นเลย อายแทน
ทราบไหมว่าทุกวันนี้ เด็กบางคนสอบได้ 4 แทบทุกวิชา เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จบออกมาแล้วเขาดี เขาเก่ง เขาทำได้เหมือนกับที่ได้คะแนนจากอาจารย์ให้มาไหม มันเกิดอะไรขึ้น ท๊อปภาษาอังกฤษ แต่เขียน อ่าน แปล พูด ไม่ได้ไม่เป็นเลย แล้วใครต่อใครพากันเปิดสถาบันการศึกษางอกขึ้นมาเป็นดอกเห็ด แต่ความรู้ไม่ได้งอกเงยตามเลย ให้แต่โอกาสได้ที่เรียน และแจกใบประกาศ ใบปริญญากันออกมาแค่นั้นหรือ ไม่ได้มองถึงคุณภาพการมีความรู้จริง ใช้งานกันได้จริงด้วยหรือยังไง พูดง่ายๆว่ามีแต่ร้านค้าวิชาการ แต่หาคนมีความรู้จริงมีน้อยมาก มีการติดตามนักศึกษาเหล่านั้นไหม ที่เขาได้โท ได้เอก ได้เกียรตินิยมไปแล้วทำอะไรได้จริงเหมือนคะแนนที่ได้ในห้องเรียนไหม หรือพวกที่สอบได้อันดับหนึ่งของประเทศ เขาทำอะไรกันอยู่ที่ไหน นำมาสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้แค่ไหน หรือว่าได้ที่หนึ่งของประเทศเพราะไปกวดวิชา ไปจำคำตอบที่เก็งตรงตามข้อสอบแล้วก็สอบแข่งขันได้ที่ดีๆ แต่จริงๆมีความรู้ความสามารถกันแค่ไหน จะวัดกันแค่ว่าจำได้เท่านั้นหรือไง จะเอาคะแนนมาวัดเป็นมาตรฐานได้ไหม ครู อาจารย์ที่ให้คะแนนพวกเขา เพราะว่าพวกเขาตอบถูกใจอาจารย์ แค่นั้นหรือ ไม่ได้นึกถึงความถูกต้อง หรือความคิดความอ่านที่นอกเหนือไปจากที่ตนสอนบ้างหรือ หรือไม่ให้พวกเขาคิดนอกกรอบ สรรหาความแปลกใหม่ หรือไม่นึกว่าเด็กอาจจะอยากตั้งข้อเสนออะไรให้อาจารยืนำไปคิดบ้างหรือ เดี๋ยวนี้เด็กเกรดเอ (A) มันไม่ได้แปลกแตกต่าง หรือดีไปกว่าคนธรรมดาเท่าใดนัก เพราะบังเอิญไปตอบข้อสอบได้ตรงตามที่อาจารย์ต้องการ หรือคาดการณ์เอาไว้เท่านั้น ขอให้มองประเด็นอะไรให้มันออก เกาให้ถูกที่คันหน่อย
พูดมาถึงตรงนี้ ยังไม่ลืมเรื่องคนกล้าคนดีที่ควรบันทึกไว้ เพื่อตัวอย่างที่ดีของคนทั้งประเทศและทั่วทั้งโลกด้วย เสียดายยังหาชื่อไม่ได้ กำลังและจะนำมาปิดไว้ตรงนี้ด้วย เขาคือ ……………………………………………………………….
ขอปรบมือชื่นชมในวีรกรรมของท่านทั้งหลายมา ณ ที่นี่ด้วย และขอให้เจริญ มีความสุข สมหวัง ร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง และให้พระ และพระ คุณพระศรีรัตนตรัยตลอดทั้งสิ่งศักด์สิทธิ์ทั้งหลายจงคุ้มครองพวกท่านให้ยั่งยืนนานต่อๆไปด้วยเทอญ

Jcampa-เจแคมป้า